เราจะใช้ ฟังก์ชัน if ในการทดสอบที่มีเงื่อนไข และให้เลือกตัดสินใจตามเงื่อนไขที่เรากำหนด และใช้ในการตัดสินใจทางเลือกที่มีข้อมูลหลายทาง โดยที่โปรแกรมจะนำเงื่อนไขของฟังก์ชัน if ของเราไปทดสอบแล้วส่งกลับมาว่าเงื่อนไขนั้นเป็นจริง หรือเป็นเท็จ เช่น ถ้าหากเงื่อนไขในฟังก์ชัน if ของเรานี้เป็นจริงให้เป็นยังไงต่อ ถ้าเงื่อนไข ในฟังก์ชัน if ของเรา เป็นเท็จให้เป็นยังไงต่อ เป็นต้น
รูปแบบของ ฟังก์ชัน if มีดังนี้
If (logical_test, [value_if true], [value_if false])
อธิบายคือ เงื่อนไขของ ฟังก์ชัน if ที่เราให้ตรวจสอบเป็นจริงหรือเป็นเท็จ, ถ้าเงื่อนไขเป็นจริงให้ผลลัพธ์จะเป็นแบบนี้, ถ้าเงื่อนไขเป็นเท็จผลลัพธ์จะเป็นแบบนี้
โดยการทดสอบเงื่อนไขหลายๆ เงื่อนไขที่ซ้อนกันเราจะใช้ ฟังก์ชัน if ถ้าเงื่อนไขเป็นจริงโปรแกรมก็จะทำตามคำสั่งของเงื่อนไขนั้น แต่ถ้าเงื่อนไขทดสอบแล้วเป็นเท็จ โปรแกรมจะเลือกคำสั่งสุดท้ายในการทำงาน หลักการทำงานของฟังก์ if ก็จะประมาณนี้ค่ะ
เรามาดูตัวอย่างของ ฟังก์ชัน if กันเลยนะคะ
- เงื่อนไขที่ ฟังก์ชัน if นำไปทดสอบว่าเป็นจริง หรือเป็นเท็จ ( logical_test, เงื่อนไขของเรา คือ ถ้าคะแนนเท่ากับ 80 หรือมากกว่าค่าที่ได้จะเป็น (ดีมาก) =if(H2>=80,”ดีมาก”,
- เงื่อนไขที่สอง ถ้าเงื่อนไขเป็นจริงค่าที่ต้องการคือ (ดี) [value_if true], ถ้าคะแนนมากกว่า หรือเท่ากับ 60 คือ =if(H2>=60,”ดี”,
- เงื่อนไขสุดท้ายถ้าเงื่อนไขเป็นเท็จค่าที่ต้องการ คือ (ปรับปรุง) [value_if false] “ปรับปรุง”))
- ซึ่งการใช้ฟังก์ชัน if ข้างหลัง if จะต้องมีวงเล็บเปิด สำคัญ คือ เมื่อจบสูตรเราต้องใส่วงเล็บปิดให้ครบทุกตัว

พิมพ์สูตรเสร็จแล้วกด Enter แล้วคลิกคัดลอกสูตรลากลงมาได้เลย