เป็นฟังก์ชันที่ใช้ในการหาจำนวนวันทำงานของเราโดยไม่รวม เสาร์-อาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์ต่าง ๆ เช่นในเดือนเมษายน มีวันหยุดสงกรานต์ เราก็ดูว่าหยุดกี่วันเราก็สามารถหักออกได้โดยการใช้สูตรเข้าช่วยในการคำนวณ เพื่อหาวันเริ่มงาน วันสิ้นสุดงาน ตามจำนวนวันที่เราทำงานจริง ๆ
รูปแบบของฟังก์ชัน =NETWORKDAYS(start_date,end_date,holidays)
- holidays = วันหยุดนักขัตฤกษ์
- end_date = วันสิ้นสุดการทำงาน
- holidays = วันหยุดนักขัตฤกษ์
อันดับแรกเราต้องสร้างตารางการทำงานขึ้นมาโดยกำหนดวันเริ่มต้น และ วันสิ้นสุดการทำงานชัดเจน นอกจากตารางการทำงานแล้วเรายังต้องมีตารางวันหยุดประจำเดือนอีกด้วยว่าในหว่างช่วงที่เราทำงานมีวันหยุดอะไรบ้าง รวมแล้วหยุดกี่วัน
ตัวอย่าง
ฟังก์ชันที่แสดงวัน เวลา ปัจจุบันใน Excel
ในการแสดงวัน เวลา ที่เป็นปัจจุบันใน Excel เราสามารถใช้สูตรเพื่อนำค่าปัจจุบันจากเครื่องคอมพิวเตอร์ของเราให้มาแสดงในเซลล์ที่เราต้องการได้ โดยการเรียกใช้ฟังก์ชัน NOW() และ TODAY() ซึ่งจะมีรูปแบบของสูตรดังนี้
= NOW() จะแสดงค่าวันเวลาปัจจุบันของเครื่อง
=TODAY() จะแสดงค่าวันที่ปัจจุบันของเครื่อง
ตัวอย่างเช่น
คลิกที่เซลล์ที่เราต้องการจะให้แสดงค่าวันที่ปัจจุบันพิมพ์สูตร =TODAY() แล้วกด Enter ก็จะได้ค่าวันที่ปัจจุบันดังรูปภาพด้านล่าง
ถ้าเราต้องการจะให้แสดงเวลาที่เป็นปัจจุบันเราก็คลิกที่ช่องเซลล์ที่เราต้องการแล้วไปเลือกรูปแบบวันที่และพิมพ์สูตร =NOW แล้วกด Enter เพียงแค่นี้เราก็จะได้เวลาที่เป็นปัจจุบันแล้วค่ะ
ฟังก์ชัน DAYS
เป็นฟังก์ชันที่นับจำนวนวันจากวันเริ่มต้นถึงวันสิ้นสุดโดยจะแสดงผลลัพธ์ออกมาเป็นจำนวนนับ
สูตร =DAYS(end_date,start_date)
- end_date คือค่าวันสิ้นสุด
- start_date คือค่าวันเริ่มต้น
ตัวอย่างเช่น