การหาผลบวกของจำนวนเต็มประเภทเดียวกันโดยใช้ค่าสัมบูรณ์
โดยทั่วไปเราจะแบ่งจำนวนเต็มออกเป็น 3 ประเภท ซึ่งได้แก่ จำนวนเต็มบวก จำนวนเต็มลบ และจำนวนเต็มศูนย์ โดยการบวกจำนวนเต็มที่เป็นประเภทเดียวกันจะได้ผลลัพธ์เป็นจำนวนเต็มประเภทเดิม คือ
ผลบวกของจำนวนเต็มบวกผลลัพธ์จะเป็นบวก
ผลบวกของจำนวนเต็มลบผลลัพธ์จะเป็นลบ
ผลบวกของจำนวนเต็มศูนย์ผลลัพธ์ก็จะเป็นศูนย์
ตัวอย่างการหาผลลัพธ์
การบวกจำนวนเต็มบวกด้วยจำนวนเต็มบวกให้นำค่าสัมบูรณ์มาบวกกัน และผลลัพธ์เป็นจำนวนเต็มบวก
- 7 + 8 = 15 คือ ค่าสัมบูรณ์ของ 7 บวกด้วยค่าสัมบูรณ์ของ 8 ผลลัพธ์ที่ได้เป็นบวกคือ 15 นั่นเอง
การบวกจำนวนเต็มลบด้วยจำนวนเต็มลบ ให้นำค่าสมบูรณ์มาบวกกัน และผลลัพธ์เป็นจำนวนเต็มลบ
- (-5) + (-3) = -8 คือการนำค่าสัมบูรณ์ของ -5 นั่นก็คือ 5 มาบวกกันค่าสัมบูรณ์ของ -3 คือ 3 และผลลัพธ์ที่ได้จะเป็นจำนวนเต็มลบ ซึ่งสามารถเขียนได้ในอีกรูปแบบหนึ่งคือ -5 -3 = -8
การหาผลบวกของจำนวนเต็มแต่ละประเภทโดยใช้ค่าสัมบูรณ์
จำนวนเต็มบวก บวกกับ จำนวนเต็มลบ จะได้ผลลัพธ์เป็นจำนวนเต็มบวก เมื่อค่าสัมบูรณ์ของจำนวนเต็มบวกมากกว่าค่าสัมบูรณ์ของจำนวนเต็มลบ
จำนวนเต็มบวก บวกกับ จำนวนเต็มลบ จะได้ผลลัพธ์เป็นจำนวนเต็มลบ เมื่อค่าสัมบูรณ์ของจำนวนเต็มลบมากกว่าค่าสัมบูรณ์ของจำนวนเต็มบวก
การบวกจำนวนเต็มคนละประเภท
เมื่อจำนวนเต็มบวก บวกกับ จำนวนเต็มลบที่มีค่าสัมบูรณ์ไม่เท่ากัน ให้นำค่าสัมบูรณ์ที่มากกว่ามาลบค่าสัมบูรณ์ที่น้อยกว่า ผลลัพธ์จะเป็นบวกหรือเป็นลบขึ้นอยู่กับค่าสัมบูรณ์ที่มากกว่า
ตัวอย่าง
จงหาผลลัพธ์ของ (-12) + 8
วิธีทำ –(12 – 8) = -5
อธิบาย
ถ้าจำนวนเต็มบวก บวกกับ จำนวนเต็มลบที่มีค่าสัมบูรณ์ไม่เท่ากัน ให้นำค่าสัมบูรณ์ที่มากกว่ามาลบค่าสัมบูรณ์ที่น้อยกว่า ก็จะได้ค่าสัมบูรณ์ที่มากกว่าคือ 12 มาลบกับ ค่าสัมบูรณ์ของ 8 ได้ 12 – 8 ซึ่งค่าสัมบูรณ์ที่มากกว่าเป็นจำนวนเต็มลบดังนั้นผลลัพธ์ที่ได้จึงเป็นจำนวนเต็มลบนั่นก็คือ -5
จงหาผลลัพธ์ของ 15 + (-3)
วิธีทำ (15 – 3 ) = 12
อธิบาย
นำค่าสัมบูรณ์ที่มากกว่ามาลบค่าสัมบูรณ์ที่น้อยกว่า ซึ่งจะได้ค่าสัมบูรณ์ที่มากกว่าคือ 15 มาลบกับ ค่าสัมบูรณ์ของ 3 ได้ 15 – 3 ซึ่งค่าสัมบูรณ์ที่มากกว่าเป็นจำนวนเต็มบวกดังนั้นผลลัพธ์ที่ได้จึงเป็นจำนวนเต็มบวกนั่นก็คือ 12